อัพเกรดฝูงบิน “แอร์อินเดีย” ซื้อเครื่องบินรวม 250 ลำ
“แอร์อินเดีย” ยืนยันสั่งซื้อเครื่องบินรวม 250 ลำ พร้อมเสริมด้วยบริการใหม่จากแอร์บัส
วันนี้ (22 มิ.ย.2566) แอร์อินเดีย (Air India) ยืนยันคำสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสรวมทั้งสิ้น 250 ลำ พร้อมทั้งเลือกใช้บริการดูแลซ่อมบำรุงและแพ็คเกจดิจิทัลของแอร์บัส เพื่อช่วยส่งเสริมกลยุทธ์สร้างการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของสายการบิน
คำสั่งซื้อเครื่องบินฉบับดังกล่าวประกอบไปด้วยเครื่องบินทางเดินเดียวรุ่น เอ320นีโอ (A320neo) จำนวน 140 ลำ เอ321นีโอ (A321neo) จำนวน 70 ลำ และยังสั่งซื้อเครื่องบินลำตัวกว้างรุ่น เอ350-1000 (A350-1000) จำนวน 34 ลำ และ เอ350-900 (A350-900) จำนวน 6 ลำ โดยสายการบินได้ทำการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงซื้อเครื่องบินเหล่านี้ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ Air India ยังไว้วางใจเลือกใช้โปรแกรม Integrated Materials Solutions (IMS) จาก ซาแตร์ (Satair) บริษัทในเครือของแอร์บัส เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจเรื่องความพร้อมในการปฏิบัติงานขั้นสูงของฝูงบิน โซลูชันการบำรุงรักษาที่ดูแลโดยบริษัทแอร์บัสจะช่วยสร้างความมั่นใจในเรื่องของอะไหล่และชิ้นส่วนว่าทุกครั้งที่สายการบินต้องการอะไหล่หมุนเวียนหรือวัสดุสิ้นเปลือง
สิ่งเหล่านี้จะพร้อมใช้งานและจะถูกเติมเข้าคลังสินค้าโดยอัตโนมัติ Air India จะเป็นลูกค้ารายแรกที่เลือกแพลตฟอร์ม Skywise Core X3 ของแอร์บัสเพื่อกระบวนการปรับเปลี่ยนไปสู่รูปแบบดิจิทัล โดยแพลตฟอร์มนี้เป็นระบบวิเคราะห์การบินรูปแบบใหม่ล่าสุดและมีความทันสมัยที่สุด และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันล้ำหน้าระหว่างแอร์บัสและ Air India
ข้อตกลงการซื้อเครื่องบินรวมถึงหนังสือแสดงเจตจำนงเรื่องการดูแลบำรุงรักษาและบริการดิจิทัลได้รับการลงนามต่อหน้า นาตาราจัน จันทระเศการัณ (N. Chandrasekaran) ประธานบริษัท ทาทา ซันส์ (Tata Sons) และ Air India แคมป์เบล วิลสัน (Campbell Wilson) ประธารบริหารและกรรมการผู้จัดการของ Air India กิลโยม โฟว์รี่ (Guillaume Faury) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอร์บัส คริสเตียน เชอร์เรอร์ (Christian Scherer) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์และหัวหน้าฝ่ายต่างประเทศของแอร์บัส และ เรมี เมลลาร์ด (Rémi Maillard) ประธานและกรรมการผู้จัดการแอร์บัสในอินเดียและเอเชียใต้ที่งาน Paris Air Show 2023
แคมป์เบล วิลสัน (Campbell Wilson) ประธารบริหารและกรรมการผู้จัดการของ Air India กล่าวว่า “โครงการต่ออายุและขยายฝูงบินที่เรามุ่งมั่นตั้งใจเป็นอย่างมากนั้นจะทำให้ Air India ใช้เครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดและประหยัดเชื้อเพลิงบนเครือข่ายเส้นทางบินของเราทุกเส้นทางภายใน 5 ปีได้ เราภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับพันธมิตรทั้งหมดของเรา รวมถึงแอร์บัส ในการเดินทางครั้งนี้เพื่อที่จะฟื้นฟูสายการบินให้กลับมาเป็นสายการบินระดับโลกอีกครั้ง ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าอินเดียแสดงท่าทีที่มั่นใจมากขึ้นในระดับนานาชาติ”
คริสเตียน เชอร์เรอร์ (Christian Scherer) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์และหัวหน้าฝ่ายต่างประเทศของแอร์บัส กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรหลักของ Air India ในยุคฟื้นฟูสายการบินภายใต้การนำของทาทา กรุ๊ป (Tata Group) และการบริหารงานแบบใหม่ นี่เป็นหนึ่งในโปรเจคที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่สุดในธุรกิจการบินในปัจจุบัน เราภูมิใจที่ประสิทธิภาพ ความสะดวกสบายและความสามารถที่หลากหลายของเครื่องบินรุ่นใหม่ล่าสุดของเราได้มีส่วนร่วมในกระบวนการฟื้นฟูสายการบินให้กลับมายืนในตำแหน่งสายการบินพรีเมียมระดับโลก ส่วนแพคเกจบริการของแอร์บัสก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมแบบสำหรับอนาคต โดยจะเป็นองค์ประกอบหลักของการเปลี่ยนแปลงของ Air India”
ศักยภาพของตลาดการบินระยะทางไกลของอินเดีย ด้วยเทคโนโลยี การเข้าถึง และความสะดวกสบายที่ไม่เป็นสองรองใครจะช่วยให้เส้นทางบินใหม่และประสบการณ์ผู้โดยสารดีขึ้นและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจาก A350 แล้ว ฝูงบินตระกูล A320 จะเป็นทรัพย์สินที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้หลากหลายเพื่อที่จะทำให้ทุกคนในอินเดียเข้าถึงการเดินทางทางอากาศได้และช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ตั้งแต่การบินภายในประเทศ ระดับภูมิภาค ไปจนถึงเส้นทางบินระหว่างประเทศ ทั้งนี้แผนการส่งมอบเครื่องบิน A350-900 ลำแรกกำหนดให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2566
A350 เป็นเครื่องบินลำตัวกว้าง ความจุที่นั่งผู้โดยสารตั้งแต่ 300 จนถึง 410 ที่นั่ง ทันสมัยและมีประสิทธิภาพที่สุดในโลก การออกแบบที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดนั้น (Clean sheet design) ประกอบด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และการออกแบบตามหลักอากาศพลศาตร์ที่ทำให้ประสิทธิภาพและความสะดวกสบายมีมาตรฐานแบบที่ไม่มีใครเทียบได้ เครื่องยนต์รุ่นใหม่และการใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาทำให้ A350 ได้เปรียบในเรื่องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ต้นทุนการดำเนินงาน และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) ที่ลดลงถึง 25 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเครื่องบินคู่แข่งรุ่นก่อน
ห้องโดยสารของ A350 เป็นห้องโดยสารที่สามารถแบ่งได้ถึง 3 ชั้นโดยสาร เงียบที่สุดในบรรดาเครื่องบินทางเดินคู่ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ บนเครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดจึงช่วยมอบประสบการณ์การบินระยะไกลที่สะดวกสบายที่สุดให้กับผู้โดยสารและลูกเรือ
A321neo เป็นเครื่องบินทางเดินเดียวในตระกูล A320 ที่ขายดีที่สุดของแอร์บัส สามารถรองรับผู้โดยสารได้ตั้งแต่ 180 ถึง 220 คน ในการจัดวางแบบสองชั้นโดยสารทั่วไป และสามารถจุได้มากถึง 244 ที่นั่งในกรณีที่จัดวางเก้าอี้โดยสารแบบหนาแน่น เครื่องบินรุ่น A320neo กลายเป็นมาตรฐานของเครื่องบินระยะทางใกล้ถึงระยะกลางที่มีความสะดวกสบายที่สุดในโลก ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ตั้งแต่ 140 ถึง 170 คน และสามารถจุได้สูงสุดถึง 180 ที่นั่ง ส่วนประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมคือลดการเผาไหม้เชื้อเพลิงและลดการปล่อย CO2 น้อยลง 20 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงลดเสียงรบกวนลง 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเครื่องบินรุ่นก่อนหน้า