Transport

“ศาลปกครองกลาง” ยกฟ้องกรณี BTSC ยื่นฟ้องคณะกรรมการ ม.36-รฟม. ปมคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม

ศาลปกครองกลางยกฟ้อง กรณี BTSC ยื่นฟ้องคณะกรรมการ ม.36 และ รฟม. ประเด็นการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ครั้งที่ 2

ตามที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้มีประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2565 ซึ่งต่อมาบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC) ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ และ รฟม. กรณีออกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ลงวันที่ 24 พ.ค.2565 และเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน โดยเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและหลักเกณฑ์คัดเลือกเอกชนให้แตกต่างจากหลักเกณฑ์เดิม ตามประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือน ก.ค.2563 ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่ชอบด้วยกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว อันมีลักษณะเป็นการกีดกันการแข่งขันอย่างเป็นธรรมนั้น

ในวันนี้ (25 ก.ค.2566) ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษายกฟ้องคดีดังกล่าว โดยศาลปกครองกลาง พิจารณาแล้ว มีความเห็นโดยสรุป ดังนี้

คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และ รฟม. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ใช้ดุลพินิจในการจัดทำประกาศเชิญชวนและเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนฉบับเดือนพฤษภาคม 2565 โดยคำนึงถึงความเหมาะสม ความจำเป็นแห่งกรณีเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ ไม่มีลักษณะเป็นการกีดกันไม่ให้ผู้ถูกฟ้องคดีเข้าร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ แต่อย่างใด อีกทั้งการที่ BTSC ผู้ฟ้องคดี มีหนังสือขอขยายระยะเวลาการยื่นข้อเสนอต่อผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง จึงรับฟังได้ว่า BTSC เข้าใจหลักเกณฑ์การคัดเลือกเป็นอย่างดี และสามารถจัดหาเอกชนเข้าร่วมยื่นข้อเสนอได้ เอกชนที่สามารถเข้าร่วมตามประกาศเชิญชวนดังกล่าวจึงไม่ได้มีเพียงรายเดียวดังที่มีการกล่าวอ้าง

อีกทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่ขัดต่อมติคณะรัฐมนตรี ประกอบกับขั้นตอนการจัดทำรายงานผลการศึกษา และการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนเป็นไปตามกฎหมายร่วมลงทุนและประกาศที่เกี่ยวข้องแล้ว ดังนั้นการจัดทำประกาศเชิญชวนและเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนฉบับเดือน พ.ค.2565 จึงเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามรูปแบบ และขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด ไม่มีลักษณะประการใดที่จะเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่เป็นการกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดีแต่อย่างใด ศาลพิพากษายกฟ้อง

ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็นส่วนตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)) ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี) และส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)

Loading

Back to top button