Transport

“ขนส่งฯ” กำชับผู้ประกอบการขนส่งตรวจรถมั่นคงแข็งแรงก่อนให้บริการ

“กรมการขนส่งทางบก” เผยผลตรวจความพร้อมรถโดยสารและพนักงานขับรถที่ทุกสถานีขนส่งและจุดจอดทั่วประเทศช่วงวันหยุดยาว ระหว่างวันที่ 28-29 ก.ค. 2566 ตรวจรถโดยสารสะสมแล้วกว่า 20,000 คัน กำชับ!!!ผู้ประกอบการขนส่งตรวจความพร้อมตัวรถให้มีสภาพมั่นคงแข็งแรงก่อนให้บริการ

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขบ. ได้ดำเนินการตามมาตรการอำนวยความสะดวกและปลอดภัย ช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษาโดยมีมาตรการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดจอด จุดตรวจ Check Point รวม 25 จุด ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 28 ก.ค.-2 ส.ค.2566 เพื่อให้พี่น้องประชาชน “เดินทางสะดวก ปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19” ตลอดช่วงวันหยุดยาวดังกล่าว

และเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการขนส่งผู้ให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดทุกแห่ง ตรวจความพร้อมของรถและความพร้อมของผู้ขับรถก่อนออกเดินทาง ตามแบบ Checklist เช่น การมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง การตรวจความพร้อมด้านร่างกาย การตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ชั่วโมงการขับรถไม่เกินที่กฎหมายกำหนด รถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรงทั้งสภาพตัวรถภายนอกและภายใน รวมทั้งอุปกรณ์ เพื่อความปลอดภัยต่าง ๆ ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและให้ความรู้แก่ผู้โดยสารกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และขอให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทาง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นต้น

สำหรับผลดำเนินการตรวจความพร้อม ในวันที่ 29 ก.ค.2566 ตรวจรถโดยสารสาธารณะแล้ว จำนวน 9,642 คัน ไม่พบรถบกพร่อง ส่วนการตรวจความพร้อมพนักงานขับรถ จำนวน 9,642 ราย มีความพร้อมในการให้บริการทุกรายและไม่พบพนักงานขับรถบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมีการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะสะสมตั้งแต่วันที่ 28-29 ก.ค. 2566 จำนวนทั้งสิ้น 20,506 คัน

ในส่วนผลการดำเนินการติดตามตรวจสอบการเดินรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ด้วยระบบ GPS Tracking ผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ประจำวันที่ 29 ก.ค.2566 จำนวน 48,344 คัน พบการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด จำนวน 106 คัน ผลตรวจสอบการใช้ความเร็วรถโดยสารและรถบรรทุก ด้วยกล้องเลเซอร์บนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ จำนวน 2,151 คัน พบการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด จำนวน 33 คัน  ขบ. จะเร่งประสานผู้ประกอบการขนส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อระงับการใช้ความเร็ว ควบคู่กับมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

สำหรับการร้องเรียนเกี่ยวกับรถโดยสารสาธารณะผ่านศูนย์ 1584 ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้วจำนวน 3 เรื่อง เรื่องร้องเรียนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่หนึ่ง คือ เรื่องขับรถประมาท/น่าหวาดเสียว อันดับที่สอง คือ ผู้ประจำรถแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ/แต่งกายไม่เรียบร้อย และอันดับที่สาม คือ ไม่หยุดรับส่งผู้โดยสารที่ป้าย ขบ. จะเร่งติดตามผู้กระทำผิดมาสอบสวนและดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้หากพบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ สามารถแจ้งสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

Loading

Back to top button