กรมเจ้าท่า เร่งตรวจสอบสาเหตุ กรณีพบคราบน้ำมันสีดำบริเวณชายหาดในยาง หาดไม้ขาว อุทยานฯ สิรินาถ จ.ภูเก็ต
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2566 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย มอบหมายให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตและสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ เร่งตรวจสอบหาสาเหตุ กรณีได้รับแจ้งว่าพบคราบน้ำมันสีดำบริเวณชายหาดในยาง หาดไม้ขาว อุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 3 จ.ภูเก็ต สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ภูเก็ต ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ภูเก็ต สำนักงานตำรวจน้ำภูเก็ต สำนักงานตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต อ.ถลาง อุทยานแห่งชาติสิรินาถ รวมทั้งผู้นำชุมชนและสื่อมวลชน ร่วมกันบูรณาการร่วมกัน โดยนัดหมายพื้นที่เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และร่วมกันจัดเก็บขจัดคราบหรือก้อนน้ำมันดังกล่าว
วันที่ 5 ส.ค.2566 เวลา 10.00 น. นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต มอบหมายให้นายอดูลย์ ระลึกมูล เจ้าพนักงานตรวจเรือชำนาญการ พร้อมด้วย นายฤทธิชัย ทิพย์ศรี นักวิชาการขนส่งปฏิบัติการ นายปรัชญ์ เส้งนุ่ม เจ้าพนักงานตรวจท่าปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ลงพื้นที่เข้าร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบและกำจัดสิ่งปฏิกูลซึ่งคาดว่าเกิดจากน้ำมันเตา ในพื้นที่หน้าหาดไม้ขาว ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต
โดยจากการตรวจสอบพบว่าเป็นน้ำมันเตา ลักษณะจับตัวเป็นก้อน กระจายในบริเวณพื้นที่หน้าหาดอุทยานแห่งชาติสิรินาถ หาดไม้ขาว หาดในยาง หาดในทอน หาดลายัน ครอบคลุม 3 ตำบลคือ ต.สาคู ต.ไม้ขาว ต.เชิงทะเล อ.ถลาง และบริเวณใกล้เคียง รวมเป็นระยะทางยาวประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ต จากการตรวจสอบพบว่าตลอดแนวพบคราบน้ำมันดังกล่าวกระจายตัวไม่หนาแน่นในจุดต่างๆ โดยบริเวณที่พบและมีความหนาแน่นของคราบน้ำมันสูงสุด คือบริเวณหน้าหาดไม้ขาวใกล้สโมสร-สหกรณ์ ศูนย์ควบคุมการบิน อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยได้ดำเนินการจัดเก็บเป็นที่เรียบร้อย
ทั้งนี้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ร่วมกับ อุทยานแห่งชาติสิรินาถ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต( ทสจ.ภก.) และสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกันจัดทำบันทึกรวบรวมเอกสารหลักฐานและพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ที่สถานีตำรวจภูธรสาคู ในวันจันทร์ที่ 7 ส.ค.2566 นี้ เพื่อสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 119 ทวิ “ห้ามมิให้ผู้ใดเท ทิ้ง หรือทำด้วยประการใดๆ ให้น้ำมันและเคมีภัณฑ์หรือสิ่งใดๆ ลงในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ หรือทะเลสาบอันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน หรือทะเลภายในน่านน้ำไทยอันอาจจะเป็นเหตุให้เกิดเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตหรือต่อสิ่งแวดล้อมหรือเป็นอันตรายต่อการเดินเรือในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบดังกล่าว ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องชดใช้เงินค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปในการแก้ไขสิ่งเป็นพิษหรือชดใช้ค่าเสียหายเหล่านั้นด้วย”
พร้อมกันนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเรือที่เดินทางในเส้นทางฝั่งตะวันตกในช่วงเวลาที่ผ่านมา ในระบบ VTS ของศูนย์ควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเลอันดามัน (CSCA) โดยร่วมกับ กองทัพเรือภาคที่ 3 นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจตรวจสอบค้นหาเรือตามแนวชายฝั่ง พร้อมประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาผู้กระทำความผิดดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป