Transport

ยกระดับถนนสาย ข1 ผังเมืองรวมเมืองสมุทรปราการ

กรมทางหลวงชนบท ส่งเสริมการคมนาคมขนส่งสินค้าและการเดินทางระหว่าง กรุงเทพฯ-สมุทรปราการ สมบูรณ์ รองรับการขยายตัวเศรษฐกิจในอนาคตเต็มประสิทธิภาพ สร้างถนนสาย ข1 ผังเมืองรวมเมืองสมุทรปราการ 1.9 กม. งบฯ 157.85 ล้านบาท เดินหน้ากว่า 43 % เร็วกว่าแผน ปิดจ๊อบปี 67

กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ระบุว่า รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย ข1 ผังเมืองรวมเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 43% เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ ขณะนี้บางช่วงได้ดำเนินการปูผิวจราจร งานทางเท้า เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่แล้ว และบางช่วงอยู่ในขั้นตอนของการรื้อย้ายเสาไฟฟ้า งานถมขยายคันทาง งานรื้อผิวถนนเดิม และงานก่อสร้างขยายสะพานข้ามคลองชวดลากข้าว และคลองสิงห์โต ซึ่งโครงการดังกล่าวคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2567 ต่อไป

จ.สมุทรปราการมีพื้นที่ตั้งอยู่ติดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมที่สำคัญ และเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทั้งทางน้ำและทางอากาศ ประกอบกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีหนังสือขอความอนุเคราะห์ให้ ทช. พิจารณาในการสนับสนุนการก่อสร้าง และขยายถนนสายกิ่งแก้ว-คลองสิงห์โต ทั้งนี้เพื่อเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งสินค้าระหว่างกรุงเทพมหานคร และ จ.สมุทรปราการให้สมบูรณ์ สามารถรองรับการเจริญเติบโตของเมืองในอนาคตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

โดยเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่าง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กับเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร (ระหว่าง ทล.3256 หรือถนนกิ่งแก้ว กับถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออก) พร้อมทั้งยังเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งสินค้านำเข้า-ส่งออกสู่สนามบินสุวรรณภูมิให้มีความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น

ทช. จึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย ข1 ผังเมืองรวมเมืองสมุทรปราการ มีจุดเริ่มต้นบริเวณ กม.ที่ 0+000 เชื่อมจาก ทล.3256 (ถนนกิ่งแก้ว) ประมาณ กม.ที่ 17+090 ด้านซ้ายไปทางทิศตะวันตกตามแนวถนนคอนกรีตเดิม (สป.4008 หรือ ซอยกิ่งแก้ว 25/1) ตัดผ่านคลองชวดลากข้าว และคลองสิงห์โต มีจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณ กม.ที่ 1+925 บรรจบกับถนนของเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร และเชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออก รวมระยะทาง 1.925 กิโลเมตร

โดยมีรูปแบบการก่อสร้างเป็นผิวจราจรขนาด 4 ช่องจราจร ความกว้างช่องจราจรละ 3.25 เมตร ทางเท้ากว้างข้างละ 3 เมตร ซึ่งตั้งแต่ช่วง กม.ที่ 0+000 ถึง กม.ที่ 0+100 ก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก และช่วง กม.ที่ 0+100 ถึง กม.ที่ 1+925 ก่อสร้างเป็นผิวจราจรแอสฟัลท์ติกคอนกรีต พร้อมก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 2 แห่ง ติดตั้งระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยตลอดสายทาง โดยใช้งบประมาณรวม 157.85 ล้านบาท

Loading

Back to top button