PR News

ลุย!! สัมมนา “สร้างความเข้าใจระบบรถไฟฟ้า สายสีชมพู และบริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน”

BTS จับมือ NBM จัดสัมมนา “โครงการสร้างความเข้าใจระบบรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู และการบริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน”

เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2566 ณ ห้องแคทลียา โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ พล.ต.ต.วราห์ เอี่ยมมงคล กรรมการที่ปรึกษา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู และประธานในพิธี พร้อมด้วย นายณัฐชัย ผะเดิมชิต ผู้อำนวยการฝ่ายความปลอดภัย และรักษาความปลอดภัย และตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายมนัส ศรีสันต์ ผู้อำนวยการสถาบันการรักษาความปลอดภัยและดับเพลิง-กู้ภัย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.), พ.ต.ท.ชายวุธ ชายโอฬาร รอง ผกก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ., พ.ต.ท.ก้องพิสิษฐ์ พฤกษาชีวะ รอง ผกก. สถานีตำรวจภูธร ปากเกร็ด และแพทย์หญิง เกศินี แซ่เฮ้ง จากโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า

ร่วมเปิดสัมมนา “โครงการสร้างความเข้าใจระบบรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู และการบริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน” ซึ่งภายในงานได้มีการบรรยายพิเศษเรื่อง “การบริหารจัดการระบบรักษาความปลอดภัย รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู” และการเสวนาให้ความรู้ในหัวข้อ “เมื่อเกิดเหตุกราดยิง ในระบบรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู”

สำหรับเป้าหมายการจัดสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติงาน เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินในระบบรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ทั้งในส่วนของระบบ การบริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน และการประสานงานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หน่วยบริการเหตุการณ์ฉุกเฉินภายนอก ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ, เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, เจ้าหน้าที่หน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน รวมถึงหน่วยงานองค์กรปกครองท้องถิ่น เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และสามารถบูรณาการร่วมกัน ตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

พล.ต.ต.วราห์  กล่าวว่า การจัดสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อให้หน่วยบริการเหตุการณ์ฉุกเฉินภายนอก มีความเข้าใจในระบบรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพูในภาพรวม เช่น เส้นทางการให้บริการ ระบบโครงสร้าง และส่วนประกอบของสถานี รวมถึงความเข้าใจในแผนการบริหารจัดการเหตุการณ์ฉุกเฉินของบริษัทฯ เพื่อทำให้เกิดความคุ้นเคยในการประสานงาน และการดำเนินงาน ด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นการสานความสัมพันธ์อันดี ระหว่างเจ้าหน้าที่ในแต่ละหน่วยงาน

พร้อมเชื่อว่าหลังจากการเสวนาร่วมกันในครั้งนี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าใจถึงข้อปฏิบัติ และบทบาทหน้าที่มากยิ่งขึ้น ทำให้การประสานงานเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ มีความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐาน ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน และพื้นที่โดยรอบได้เป็นอย่างดี

Loading

Back to top button